''เปรต” เดือนสิบ ซึ่งเป็นความเชื่อของชาวนครศรีธรรมราช ว่า ในช่วงเทศกาลบุญสารทเดือนสิบ บรรดาบรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้วโดยเฉพาะบุคคลที่ก่อกรรมไม่ดีไว้เมื่อครั้งยังมีชีวิตเมื่อตายไปจะลงไปชดใช้กรรมในนรภูมิกลายเป็น “เปตชน” หรือที่รู้จักในนามของ “เปรต”
สำหรับขบวนแห่เปรตดังกล่าวนั้น เป็นการจำลองรูปแบบของเปรตลักษณะต่างๆ ตามแต่จะก่อกรรมมาเมื่อครั้งดำรงชีวิต เมื่อถึงเทศกาลบุญสารทเดือนสิบยมโลกหรือนรกภูมิจะพักการลงโทษเปรตเหล่านี้และปลดปล่อยให้ขึ้นมารับส่วนบุญส่วนกุศลที่ลูกหลานได้ร่วมกันทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ในช่วงเทศกาลบุญสารทเดือนสิบ
และได้มีการจำลองรูปแบบขอส่วนบุญส่วนกุศลตามเส้นทางถนนราชดำเนินท่ามกลางความสนุกสนานของผู้พบเห็น บ้างใช้เป็นโอกาสในการสั่งสอบบุตรหลานถึงการทำกรรมชั่ว เมื่อตายไปจะตกนรกภูมิกลายเป็นเปรตเช่นนี้ โดยขบวนเปรตดังกล่าวนี้ได้ตั้งต้นแห่จากวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหารแล้วไปสิ้นสุดที่ลานตะเคียนศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช
และได้มีการจำลองรูปแบบขอส่วนบุญส่วนกุศลตามเส้นทางถนนราชดำเนินท่ามกลางความสนุกสนานของผู้พบเห็น บ้างใช้เป็นโอกาสในการสั่งสอบบุตรหลานถึงการทำกรรมชั่ว เมื่อตายไปจะตกนรกภูมิกลายเป็นเปรตเช่นนี้ โดยขบวนเปรตดังกล่าวนี้ได้ตั้งต้นแห่จากวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหารแล้วไปสิ้นสุดที่ลานตะเคียนศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช
ความเชื่อเรื่องเปรต

เปรตมักวนเวียนอยู่ใกล้วัด แต่คนมักพูดถึงเรื่องเปรตกันที่บ้าน
เรื่องเปรตเป็นความเชื่อของไทยอันเนื่องมาจากศาสนา
และประเพณี, กล่าวถึงวิถึชาวบ้านที่เชื่อผูกพันกับเปรต
เปรตที่เนื่องมาจากความเชื่อประเพณีเดือนสิบที่ปักษ์ใต้
ทั้งมีเรื่องที่ไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่ หรือเวรกรรมมีจริง ?
ประเพณีวันสาร์ทเดือนสิบของปักษ์ มีกล่าวถึงอยู่ทั่วไป
ทั้งองค์กรที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวก็ร่วมกันจัดให้แพร่กระจายทุกปี
และชาวท้องถิ่นสืบทอดปรเพณีกันอย่างครัดในทุกจังหวัดที่นับถือศาสนาพุทธ
มี่มีความเชื่อทางศาสนา และเรื่องของกรรม ฯลฯ
เดือนนี้เป็นเดือนที่มีเทศกาลดังกล่าว
จึงกล่าวเล่าถึงวิถีชีวิตชาวปักษ์ใต้ที่ไม่เกี่ยวถึงพิธีกรรมและเพณี ฯ
มีคำกล่าวเป็นสุภาษิตในความเชื่อในเรื่องศาสนา, ประเพณี ต่าง ๆ มากมาย
ด้วยความเชื่อต่าง ๆ นี้ ชาวบ้านก็นำมาผูกเป็นภาษิต เปรียบเทียบกับพฤติกรรมของคน
ว่าด้วยเรื่องของ"เปรต"
เชื่อกันว่าธรรมชาติของเปรตนั้น มีรูปรางผอมสูง และหิวอยู่ตลอดเวลา
ที่กล่าวกันทั่วไปเช่นว่า "สูงเหมือนเปรต" "หยาจกเหมือนเปรต" ฯ เป็นต้น
เปรตที่ไหน ๆ ทำไมมักทำกันเป็นเพศชาย ?
ขยายความเป็นมาของประเพณี ที่เห็นอยู่ของปักษ์ใต้
ที่นำมาเปรีบเทียบกับพฤติกรรมของคนที่ว่า-
"สูงเหมือนเปรต" (ตัวเปรต) หรือเปรียบ "สูงเหมือนเสาร้านเปรต"
เป็นที่รู้กันว่าประเพณีนี้เป็นการทำบุญอุทิศให้ผู้ว่งลับไปแล้ว
และเชื่อว่าผู้ล่วงลับที่ไปเกิดเป็นเปรตนั้น ไม่สามารถเข้ามาในวัดได้
เพียงมารับส่วนบุญนอกบริเวณวัด
ญาติ ๆ จึงจัดอาหารคาวหวาน และขนมตามประเพณีนี้ใส่ใบตองไปวางไว้นอกวัด
เรียกว่า "การตั้งเปรต" ซึ่งนอกจากวางกับพื้นแล้วบางถิ่นจะยกเป็นร้านสูง
เพราะเปรตตัวสูง จึงนำมาเทียบกับคนที่ตัวสูงผิดปกติ
และยังเชื่อว่าเปรตปากเล็กเท่ารูเข็ม จึงหิวตลอดเวลา
นำมาเทียบล้อกันอีกว่า "หยาจกเหมือนเปรต"
และอีกมากคำนำมาใช้ในทางไม่ดี ติเตียน หรือคำด่า เป็นต้น
วิถีของเด็กเมื่อวัยเรียนอยู่ชั้นประถม มักเล่นล้อกันกับเพื่อน ๆ ชายและหญิง
เกมการเล่นพื้นต่าง ๆ ได้ผลทั้งรักใคร่ และทะเลาะขัดแย้ง ฯ
และลามล้อไปถึงบางเรื่องที่เกินวัย แต่ดูยังไม่จริงจังประประสีสาเท่าใดนัก
คือการร่วมกันจับคู่ให้เป็นแฟนกัน เป็นการมากระซิบบอกข่าว
ไม่ได้จูงมือมาประจันตัวต่อตัว , มีการเหนียมกันอายบ้าง โดยเฉพาะฝ่ายหญิง...
เมื่อเสนอเพื่อนคนหนึ่งให้เด็กหญิงสมเพียร
พอเธอได้ยินชื่อก็ปฏิเสธทันที
"กูไม่เอาไอ้เมร่อนั้น สูงเหมือนเปรต" เธอว่าพร้อมส่ายหน้า
หลาย ๆ ปีต่อมาพบว่าสมเพียรได้แต่งงานมีความสุขดีกับครอบครัว
กับคู่ชีวิดที่ไม่ใช่เพื่อนนักเรียน ที่สูงเหมือนเปรตคนนั้น
แต่เชื่อหรือไม่ ยามที่เธอยืนหรือเดินคู่กับสามี ศีรษะเธอยังไม่พ้นหัวไหล่สามี !
ทั้งที่เธอมีความสูงเป็นปกติเหมือนเพื่อนหญิง ทั่วไป